เมนู
บุคลากร
ข้อมูล
สถิติผู้เข้าชมเว็บไซต์
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
|
ออนไลน์ | 00005 |
วันนี้ | 00001 |
วานนี้ | 00006 |
เดือนนี้ | 00129 |
เดือนก่อน | 00012 |
ปีนี้ | 00215 |
ปีก่อน | 00000 |
ข้อตกลงแนวปฏิบัติครู
ข้อตกลงแนวปฏิบัติสำหรับพนักงานครูและบุคลากรทางการศึกษา
โรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลนาดูน และศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลนาดูน
โรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลนาดูน และศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลนาดูน
1. การพัฒนาตนเองให้มีความรู้ ความเข้าใจ วิชาชีพครู
ครูและบุคลากรทางการศึกษา โรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลนาดูน จะต้องรู้จักบทบาทหน้าที่ของตนเอง ดังนี้
1.1 มีทักษะความชำนาญการ/ ความเชี่ยวชาญ ในด้านการจัดกระบวนการเรียนรู้, ทักษะการจัดกลุ่มนักเรียน, ทักษะในการพัฒนาและการใช้สื่อ นำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาใช้ในการจัดกระบวนการเรียนรู้,
ทักษะในการจัดทำแฟ้มผลงานนักเรียน , ทักษะในการประเมินผลระดับความรู้ และระดับการพัฒนาของ
ผู้เรียน, ทักษะการใช้สื่อและเทคโนโลยีต่างๆ, ทักษะการให้คำปรึกษา, ทักษะมนุษย์สัมพันธ์ และทักษะการ
เป็นผู้นำแนวใหม่
1.2. มีทักษะและเทคนิควิธีการ ในด้านต่าง ๆ ดังนี้
1.2.1. รู้ และความเข้าใจวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมายการพัฒนาคุณภาพของสถานศึกษา
1.2.2. รู้ และเข้าใจเรื่อง หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน การบริหารจัดการหลักสูตร
1.2.3. รู้ เรื่องระบบคุณภาพของสถานศึกษา คือ ระบบหลัก และ ระบบสนับสนุน
1.2.4. รู้ เรื่องการวัดผลและประเมินผลจากการปฏิบัติจริง (Authentic Assessment)
1.2.5. รู้ ด้านจิตวิทยาเด็กวัยรุ่น จิตวิทยาการเรียนรู้และเทคนิคการจัดกระบวนการเรียนรู้
1.2.6. รู้ เรื่องการนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้บูรณาการในการทำงาน
1.2.7. รู้ระเบียบแนวปฏิบัติในการทำงานของสถานศึกษา และวัฒนธรรมท้องถิ่น
1.3. ความสัมพันธ์กับชุมชน และ ผู้ปกครองนักเรียน
1.3.1. ครูทุกคนต้องสร้างเครือข่ายผู้ปกครอง, เครือข่ายแหล่งเรียนรู้ ภูมิปัญญาท้องถิ่น
และเข้าร่วมกิจกรรมของชุมชนและเทศบาลในเทศกาลวันสำคัญต่าง ๆ
1.3.2. ครูทุกคนต้องออกเยี่ยมบ้านนักเรียน และชุมชน อย่างน้อยภาคเรียนละ 1 ครั้ง
1.4. จัดระบบข้อมูลสารสนเทศ เพื่อการบริหารจัดการ และการเรียนรู้ ครูทุกคนต้องมี
ข้อมูลสารสนเทศพื้นฐานของผู้ปกครอง, ชุมชน และ แหล่งเรียนรู้ในชุมชน เพื่อใช้ในการบริหารจัดการเรียน
การสอนได้อย่างมีคุณภาพ
1.5. รักษาความสะอาด อาคารเรียน ห้องเรียน บริเวณสถานที่ และสิ่งแวดล้อม
1.5.1. ครูที่ปรึกษาระบบดูแล ต้องทำหน้าที่ กำกับดูแลนักเรียนในการรักษาความสะอาด
บริเวณรับผิดชอบ , มีการตกแต่งบริเวณให้เป็นบรรยากาศร่มรื่น น่าอยู่ และเป็นแหล่งเรียนรู้
1.5.2. ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ จัดห้องปฏิบัติการ เป็นห้องแหล่งเรียนรู้ , ศึกษาค้นคว้า
เพิ่มเติมมีบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนรู้ การพักผ่อนและการจัดกิจกรรมเสริมการเรียนรู้ของนักเรียน
1.5.3 ครูต้องออกแบบการจัดแหล่งเรียนรู้ในโรงเรียน ตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ที่ตนเอง
รับผิดชอบ เช่น ห้องปฏิบัติการ, อินเตอร์เน็ต, มุมอ่านหนังสือ, ห้องค้นคว้า ที่สามารถดึงดูดความสนใจของผู้เรียนให้เข้าไปใช้ประโยชน์แสวงหาความรู้ได้อย่างรวดเร็ว สะดวกทันสมัย
1.6. พัฒนาและปรับปรุงสื่ออุปกรณ์เรียนรู้
ครูต้องผลิตสื่อ หรือปรับปรุงสื่ออุปกรณ์การเรียนการสอน และเทคโนโลยีให้ทันสมัยพร้อม
ใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นนักเรียนเป็นสำคัญ โดยส่งเสริมให้ผู้เรียนได้พัฒนา
เต็มตามศักยภาพตามความสนใจ และความถนัดของผู้เรียนแต่ละคน
1.7. การทำงานเป็นทีม
ครูทุกคนจะต้องสร้างเครือข่ายในการทำงาน ให้มีความเชื่อมโยงกันทั้งระบบในระบบหลัก
และ ระบบสนับสนุน ร่วมกำหนดเป้าหมาย วางแผนการทำงาน ออกแบบการประเมินแล้วช่วยกันทำ และ
พัฒนาปรับปรุงงานระบบให้ดีขึ้น โดยมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ปรึกษาหารือ พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน
2. บทบาทหน้าที่ในการพัฒนาการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้
บทบาทสำคัญของครูผู้สอนในการพัฒนาผู้เรียนให้บรรลุตามจุดหมายหลักสูตร มีดังนี้
2.1. วิเคราะห์หลักสูตร คำอธิบายราวิชา, ความสัมพันธ์ระหว่างผลการเรียนที่คาดหวัง/ตัวบ่งชี้วิเคราะห์ผู้เรียน ศึกษาข้อมูลผลการเรียนรู้ภาคเรียนที่ผ่านมา, ทดสอบพื้นฐาน, สอบถามความถนัดความสนใจ, บันทึกข้อมูลการวิเคราะห์ตามแบบบันทึก
2.2. การให้ความช่วยเหลือ / ปรับพื้นฐาน จัดกลุ่มผู้เรียนตามสภาพความต้องการช่วยเหลือ
จากข้อมูล วิเคราะห์, จัดกิจกรรมปรับพื้นฐาน/ประเมินผลการปรับพื้นฐาน
2.3. การออกแบบแผนการจัดการเรียนรู้ และการประเมินผลการเรียนรู้แต่ละหน่วย การจัดการเรียนรู้ มีแผนการเรียนรู้, บันทึกปัญหา /ข้อเสนอแนะในการใช้แผนการเรียนรู้, บันทึกผลการเรียนของผู้เรียน, บันทึกพฤติกรรมที่ครูค้นพบ
2.4. การนิเทศภายในแลกเปลี่ยนเรียนรู้ จัดกิจกรรมกลุ่มนิเทศแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อพัฒนาและแก้ปัญหาการจัดการเรียนรู้ประเมินผลการเรียนรู้แต่ละหน่วย ศึกษาผลการเรียนรู้,จัดกลุ่มผู้เรียนผ่าน/ไม่ผ่าน
2.5. ศึกษาวิเคราะห์ พัฒนาผู้เรียนที่ไม่ผ่านผลการเรียนรู้ จัดทำแผนแก้ไขปรับปรุง/วิจัยปฏิบัติการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ /และจัดกิจกรรมส่งเสริมความสามารถ ความถนัดและความสนใจตามกลุ่มสาระ และจัดกิจกรรมส่งเสริมศักยภาพพิเศษแก่นักเรียนที่อยู่ในกลุ่มระดับดี
2.6. วิจัยพัฒนาการเรียนการสอนต่อเนื่อง , นำผลวิจัยมาปรับปรุงแก้ไขบันทึกข้อมูล / ตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างผลการเรียนที่คาดหวังกับมาตรฐานตัวชี้วัดที่กำหนด และบันทึกจัดทำสารสนเทศจากผลการเรียนรู้ และการวิจัยพัฒนา
2.7. ประชุมประเมินทบทวน/วิเคราะห์จุดเด่น จุดด้อย เพื่อพัฒนาในภาคเรียน/ปีการศึกษา ต่อไป
3. บทบาทหน้าที่ในการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (กิจกรรมชุมนุม)
ครูและบุคลากรทางการศึกษา มีบทบาทหน้าที่ในการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน มีดังนี้
3.1. จัดตั้งกลุ่มกิจกรรมนักเรียนตามกลุ่มสนใจ3.2. วางแผนการจัดกิจกรรม
3.3. จัดกิจกรรมตามแผน/ประเมินผลการดำเนินงานของแต่ละกิจกรรม
3.4. บรรลุวัตถุประสงค์หรือไม่ ถ้าไม่ ต้องปรับปรุงการจัดกิจกรรมและการประเมินผล
3.5. ประเมินผลรวมของกิจกรรม
3.6. สรุปรายงานผล นำเสนอผลงาน สรุปความพึงพอใจของครูที่ปรึกษาและสมาชิกกลุ่ม
4. บทบาทหน้าที่ครูในการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (กิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารี)
ครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกคน มีบทบาทหน้าที่ในการจัดกิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารี มีดังนี้
4.1 รู้ และ เข้าใจบทบาทหน้าที่เกี่ยวกับการเป็นผู้กำกับลูกเสือ-เนตรนารี4.2 ระบบการบังคับบัญชา ระดับกลุ่มลูกเสือ, ระดับกอง, ระดับหมู่
4.3 วางแผนการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน และการวัดผลประเมินผล
4.4 ดำเนินการจัดกิจกรรม
4.5 สรุปรายงานผล
5. บทบาทหน้าที่ครูในการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (กิจกรรมแนะแนว)
ครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกคน มีบทบาทหน้าที่ในการจัดกิจกรรมแนะแนว มีดังนี้
5.1. ครูที่ปรึกษาระบบดูแลฯ, ห้องเรียน, ครูผู้สอน ทุกคน ต้องทำหน้าที่เป็นครูแนะแนวให้คำปรึกษานักเรียนที่มาขอคำปรึกษา
5.2. วางแผนการจัดกิจกรรมแนะแนว เพื่อให้ผู้เรียนค้นพบตนเอง, วางแผนอนาคตเมื่อจบ
การศึกษาจากโรงเรียน
5.3. บันทึกรายงานผลการให้คำปรึกษา, การแก้ไข ปรับปรุงพฤติกรรมผู้เรียน
5.4. ดำเนินการจัดกิจกรรม และให้บริการแนะแนว ทั้งในชั่วโมงสอน และนอกเวลาสอน
5.5. สรุปรายงานผลการจัดกิจกรรม
6. บทบาทหน้าที่ครูในการพัฒนา ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน
บทบาทสำคัญของครูผู้สอนในการพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ ทักษะ เป็นคนดี คนเก่ง และมีความสุข ดังนี้
6.1. มีความเข้าใจและตระหนักในหน้าที่และกระบวนการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน6.2. รู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล
6.3. การคัดกรองนักเรียน
6.4. การติดตาม ช่วยเหลือ ให้คำปรึกษา ประสานงาน ส่งต่อรายงานผล กลุ่มเสี่ยง
6.5. การจัดกิจกรรม เสริมสร้าง วินัย จริยธรรม คุณธรรม และ ส่งเสริมประชาธิปไตย
6.6. การประชุมผู้ปกครองนักเรียน ประสานงานเครือข่ายผู้ปกครอง และผู้ปกครอง ออกเยี่ยมบ้าน
6.7. รายงานผลการกดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน
7. การแต่งกาย สำหรับครู และบุคลากรทางการศึกษา
“ตัวอย่างที่ดี มีค่ากว่าคำสอน” ครูและบุคลากรทางการศึกษาถือว่าเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ลูกศิษย์โดยเฉพาะการแต่งกายมาปฏิบัติหน้าที่ราชการ จึงสมควรกำหนดการแต่งกายในวันราชการ ดังนี้
7.1.วันจันทร์ แต่งกายชุดเครื่องแบบสีกากี
7.2. วันอังคาร แต่งกายชุดผ้าฝ้าย หรือ ผ้าไหม หรือ ผ้าทอพื้นบ้าน
7.3. วันพุธ แต่งกายชุดสุภาพ
7.4. วันพฤหัสบดี แต่งกายชุดเครื่องแบบลูกเสือ-ยุวกาชาด
7.5. วันศุกร์ แต่งกายด้วยชุดขาว
8. การปฏิบัติหน้าที่ราชการประจำวัน
8.1. ครูที่ปรึกษาห้องเรียนจะต้องมาปฏิบัติหน้าที่ราชการก่อนเวลา 07.๓๐ น. เพื่อดูแลนักเรียน และจัดกิจกรรมระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนห้วงเวลา 07.๓๐–08.00 น. เมื่อได้ยินเสียงสัญญาณ“เพลงมาร์ช โรงเรียน” ให้จัดนักเรียนเดินแถวจากห้องเรียน หรือบริเวณพื้นที่รับผิดชอบ เข้าสู่ลานหน้าเสาธง เพื่อกระทำพิธีเชิญธงชาติประจำวัน ดูแลควบคุม การจัดระเบียบแถว และไม่ควรกลับก่อนเวลา 16.30 น. เพื่อตรวจงาน สรุปงานประจำวันก่อนกลับบ้านวันละ 30 นาที (15.30 – 16.30)
8.2. ครูเวรประจำวัน ปกติ ให้มาปฏิบัติหน้าที่ก่อนเวลา 07.00 น. ทำหน้าที่
1) คนที่ 1 - 2 ประจำประตูหน้าโรงเรียน มีหน้าที่ ดูแลนักเรียนข้ามถนน, ต้อนรับนักเรียน
คัดกรองนักเรียนตามมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค Covid 19 , ตรวจการแต่งกาย, การไหว้, การเดินแถวเข้าโรงเรียนเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1.5 เมตร, แนะนำนักเรียนในด้านวินัย คุณธรรม จริยธรรม ฯลฯ,
2) คนที่ 3 ตรวจความสะอาด ห้องเรียน ห้องน้ำห้องส้วม บริเวณทั่วไป มีหน้าที่
ตรวจความสะอาดห้องเรียน , ห้องน้ำห้องส้วม , ความสะอาดบริเวณรับผิดชอบต่างๆ
3) คนที่ 4 พิธีการหน้าเสาธง อบรมนักเรียนประจำวัน มีหน้าที่ จัดเตรียมนักเรียน
เชิญธงชาติ, จัดนักเรียนยืนเว้นระยะห่าง อย่างน้อย 1.5 เมตร, จัดกิจกรรมอบรมหน้าเสาธง, ประสานงานกับผู้บริหาร, หัวหน้าฝ่าย, หัวหน้างานกิจการนักเรียน หรือ งานอื่น ๆ เพื่อประชาสัมพันธ์ แจ้งให้นักเรียนทราบหลังกระทำพิธีหน้าเสาธงเรียบร้อยแล้ว
4) พักกลางวัน ทำหน้าที่ ดูแลความเรียบร้อยนักเรียนในการล้างมือ 7 ขั้นตอน, การเข้าแถวรับบริการอาหารกลางวันต้องเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1.5 เมตร, การรับประทานอาหาร, การล้างถาดหลุมใส่อาหาร, การล้างมือ, การแปรงฟัน, การดูแลความเรียบร้อยทั่วไปของนักเรียน และก่อนเวลาเข้าเรียนภาคบ่าย รวมนักเรียน ตรวจเช็คจำนวนนักเรียนก่อนเข้าเรียนภาคบ่าย/ ประชุม นัดหมาย นักเรียน
5) หลังเลิกเรียน เวลา 15.30 น. ทำหน้าที่ ดูแลนักเรียนเข้าแถวหน้าอาคารเรียนโดยเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1.5 เมตร, เดินแถวข้ามถนนหน้าโรงเรียน, กำกับดูแลการขึ้นรถรับส่งนักเรียน ฯลฯ
8.3. เวลากลับปฏิบัติราชการ ครูและบุคลากรไม่ควรกลับก่อนเวลา 16.30 น. เพื่อทำหน้าที่ตรวจการบ้านนักเรียน, สรุปผลการปฏิบัติงานในรอบวัน, เตรียมการสอนล่วงหน้า, ทำความสะอาดห้องเรียน, Work Shop งานในฝ่ายหรืองานอื่น ๆ
8.4. หากมีภารกิจสำคัญ เร่งด่วน ไม่สามารถมาตามเวลาการปฏิบัติงานราชการตามข้อ 8.1, 8.2 ให้โทรศัพท์รายงานผู้อำนวยการสถานศึกษา หรือหัวหน้าสายชั้น (กรณีติดต่อผอ. ไม่ได้) เพื่อจะได้ดำเนินการจัดบุคลากรอื่นทำหน้าที่แทนต่อไป เช่น โฮมรูมนักเรียน,การสอนแทนฯลฯ กรณีมาปฏิบัติราชการหลัง 08.30 น. ถือว่ามาสาย เว้นแต่ โทรศัพท์รายงานผู้อำนวยการสถานศึกษา หรือหัวหน้าสายชั้น (กรณีติดต่อผอ. ไม่ได้)
9. การลาป่วย ลากิจ
9.1. ลากิจ จะต้องส่งใบลาล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน และให้มีการมอบใบงาน หรืองานอื่น ๆ ล่วงหน้า เช่น การสอน, การปฏิบัติงานฝ่าย, การปฏิบัติหน้าที่ครูเวรกลางวัน หรือเวรกลางคืน
9.2. ลาป่วย เมื่อกลับมาปฏิบัติงานวันใด จะต้องยื่นใบลาพร้อมแนบใบรับรองแพทย์ (หากมี)
เพื่อประกอบการพิจารณาอนุญาต ทุกครั้ง
9.3. เกณฑ์การลา
พิจารณาตามเกณฑ์ที่เทศบาลตำบลนาดูน กำหนด
9.4. เกณฑ์ที่ถือว่า “มาทำงานสายเนือง ๆ” พิจารณาตามเกณฑ์ที่เทศบาลตำบลนาดูน กำหนด
10. การรายงานการปฏิบัติงาน / ส่งงาน
10.1. การรายงานผลการปฏิบัติงานตามที่ได้รับมอบหมาย ถือเป็นหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ กำหนดให้รายงานผลการปฏิบัติ และ(หรือ) รายงานความก้าวหน้าในการปฏิบัติงาน
ทุกสิ้นเดือน
10.2. เมื่อปฏิบัติงานตามคำสั่งโรงเรียนที่แต่งตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่งานรับผิดชอบ แล้วเสร็จ
จะต้องบันทึกข้อความ รายงานผลการปฏิบัติงาน อย่างช้าไม่เกิน 3 วัน
10.3. จัดทำรายงานผลการปฏิบัติงานเมื่อสิ้นปีการศึกษา พร้อมส่งเอกสารหลักฐานการ
ปฏิบัติงานทั้งหมด โดยจัดทำแบบรายงาน 5 บท
10.4. การส่งงานฝ่าย / กลุ่มงาน / กลุ่มสาระการเรียนรู้ ครูผู้รับผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมาย จะต้องรายงานผลการปฏิบัติประจำเดือน เสนอผ่านหัวหน้างาน หากมีการส่งงานล่าช้า หรือไม่เป็นไปตามปฏิทินงานของฝ่าย / กลุ่มงาน / กลุ่มสาระการเรียนรู้ หรืองานอื่น ๆ หัวหน้างานจะต้องรับผิดชอบ และครูผู้ละเว้นการปฏิบัติจะต้องรายงานชี้แจงเหตุผลต่อไป ( หัวหน้าฝ่ายทำหน้าที่เป็นผู้ตรวจสอบ )
11. การนิเทศ กำกับ ติดตาม ประเมินผล
11.1. การนิเทศ กำกับ ติดตาม ประเมินผล การนิเทศงานเป็นหน้าที่ของหัวหน้าฝ่าย/หัวหน้างาน /หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ จะต้องมีการประชุมบุคลากรในฝ่ายหรือทีมงานอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง และโรงเรียนจัดประชุมหัวหน้าฝ่าย / หัวหน้ากลุ่มงาน / หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง นำหัวข้อประชุมหรือผลการประชุมเข้าประชุมบุคลากรประจำเดือนทุกเดือน
11.2. การกำกับ ติดตาม การปฏิบัติงาน ให้ยึดถือตามปฏิทินงานของแต่ละกลุ่มงาน และหัวหน้างานจะต้องรายงานผลการกำกับ ติดตามการปฏิบัติงานต่อผู้อำนวยการสถานศึกษาทุกเดือน แล้วแต่กรณี
11.3. การประเมินผล ให้มีการประเมินผล ๒ ครั้ง คือ ครั้งที่ 1 ประเมินผลการปฏิบัติงานระหว่างวันที่ ๑ ตุลาคม ถึงวันที่ ๓๑ มีนาคม ของปีถัดไป , ครั้งที่ 2 ประเมินผลการปฏิบัติงาน ระหว่างวันที่ ๑ เมษายน ถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ของปีเดียวกัน การประเมินผลการปฏิบัติงาน ประเมิน ๒ องค์ประกอบ คะแนน ๑๐๐ คะแนน ดังนี้
องค์ประกอบที่ ๑ การประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผลการปฏิบัติงาน คะแนน ๗๐ คะแนน
องค์ประกอบที่ ๒ การประเมินการปฏิบัติตนในการรักษาวินัย คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ คะแนน ๓๐ คะแนน
ในแต่ละรอบการประเมิน ต้องได้คะแนนร้อยละ ๙๐.๐๐ ขึ้นไป หรือระดับ ดีเด่น
12. การวิเคราะห์ขอบข่ายงาน
12.1. วิเคราะห์ภารกิจงาน เป็นหน้าที่ของครูทุกคน เมื่อได้รับคำสั่งแต่งตั้งให้ปฏิบัติงาน จะต้องวางแผน วิเคราะห์ขอบข่ายงาน ภารกิจ เป้าหมาย จัดทำตัวชี้วัดความสำเร็จของงาน , เกณฑ์การประเมิน และจัดทำปฏิทินปฏิบัติงานของตนเอง และรายงานผู้อำนวยการสถานศึกษาทราบ ก่อนปฏิบัติงานในแต่ละภาคเรียน
12.2. จัดทำแบบรายงาน แผนงาน/โครงการ เสนอผู้อำนวยการสถานศึกษา เพื่อขออนุมัติ
การใช้แผนและขอรับการสนับสนุนด้านปัจจัย
12..3. ทำงานอย่างเป็นระบบคุณภาพ โดยใช้กระบวนการทำงานเชิงระบบ P - D - C - A
12.4. จัดทำแฟ้มผลงานตนเอง และผลงานนักเรียนทีเกิดจากการจัดการเรียนการสอน
13. ความภาคภูมิใจในผลการปฏิบัติงาน
13.1. ผลงานดีเด่น ให้จัดนิทรรศการแสดงผลงาน โครงงานดีเด่นที่เกิดจากทักษะผู้เรียน
กลุ่มสาระการเรียนรู้ และรางวัลชนะเลิศการเข้าร่วมประกวด แข่งขัน ระดับอปท. ระดับเขตพื้นที่การศึกษา ระดับจังหวัด ระดับภาค หรือระดับประเทศ
13.2. จัดมอบเกียรติบัตรหรือพิจารณาความดีความชอบแก่ครูที่ปฏิบัติงานและมีผลงานดีเด่น
13.3. เกียรติบัตรนักเรียนดีเด่น ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ฯ / กลุ่มระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน, ถือเป็นผลงานดีเด่นของครูผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำให้นักเรียนได้รับเกียรติบัตรนั้น
14. การมอบหมายการบังคับบัญชา
14.1. ในกรณีผู้อำนวยการสถานศึกษา ไปราชการ หรือไม่สามารถมาปฏิบัติหน้าที่ราชการ
มอบหมายให้ นางรพีพร วรเนตร ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ชำนาญการ ปฏิบัติหน้าที่แทนผู้อำนวยการสถานศึกษา ลำดับที่ 1 และนางพิมสงวน สุโทวา ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ชำนาญการ ปฏิบัติหน้าที่แทนผู้อำนวยการสถานศึกษา ลำดับที่ 2 และรายงานเหตุการณ์ให้ผู้อำนวยการสถานศึกษาทราบเมื่อกลับมาปฏิบัติหน้าที่ทันที หรือหากมีเหตุการณ์เร่งด่วนที่ต้องใช้ความระมัดระวัง และความรอบคอบในการตัดสินใจให้รีบรายงานโดยเร่งด่วน
วันที่ : 4 มิถุนายน 2568 View : 6